วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2556

10อันดับคนรวยที่สุดในโลก


10อันดับคนรวยที่สุดในโลก

1. คาร์ลอส สลิม เฮลู และครอบครัว
เจ้า ของธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของบราซิล มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 7.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท)
2. บิล เกตส์ หรือ วิลเลี่ยม แฮร์รี่ "บิล" เกตส์ ที่ 3
เจ้า ของบริษัทไมโครซอฟต์ บริษัทผลิตซอฟต์แวร์ชื่อดังของโลก มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท)
3. วอร์เรน บัฟเฟต์ซี อีโอและผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของบริษัทเบิร์กไชร์ แฮธาเวย์ บริษัททางด้านการลงทุนอันดับต้น ๆ ของอเมริกา มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท)
4. เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ผู้ ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัท LVMH ชาวฝรั่งเศส ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง หลุยส์ วิตตอง, ดิออร์, เฟนดิ, จีวองชี่, เคนโซ่, มาร์ค จาค็อบ, บุลการี่ และยังมีธุรกิจผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกหลายแบรนด์ ที่เป็นที่รู้จักในบ้านเรา เช่น เฮนเนสซี่ มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท)
5. แลร์รี่ เอลลิสัน หรือ ลอว์เรนซ์ โจเซฟ เอลลิสันผู้ ร่วมก่อตั้งบริษัทออร์ราเคิล คอร์เปอเรชั่น ผู้จัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ระดับโลกอีกรายหนึ่ง มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 3.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 1.198 ล้านล้านบาท)
6. ลักษมี มิทตาลมหา เศรษฐีชาวอินเดีย เจ้าของธุรกิจเหล็กยักษ์ใหญ่ในอินเดีย มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 3.11 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 9.43 แสนล้านบาท)
7. อามันซิโอ ออร์เตก้าเจ้า ของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดัง "ซาร่า" ชาวสเปน มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 3.10 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 9.4 แสนล้านบาท)
8. ไอค์ บาติสต้านัก ธุรกิจชาวบราซิล เจ้าของธุรกิจเหมืองแร่และน้ำมัน มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 9.09 แสนล้านบาท)
9. มูเกช อัมบานีเจ้า ของธุรกิจปิโตรเคมีและน้่ำมันชาวอินเดีย มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 8.18 แสนล้านบาท)
10. คริสตี้ วอลตัน และครอบครัวหนึ่ง ในผู้บริหารและผู้ถือหุ้นของวอลมาร์ท มินิมาร์ทชื่อดังของอเมริกา เป็นลูกสะใภ้คนเก่งของ แซม วอลตัน ผู้ก่อตั้ง วอลมาร์ท มีทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 2.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ตีเป็นเงินไทยประมาณ 8.03 แสนล้านบาท)

ที่มา http://board.postjung.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น